ณ เวลานี้ น้ำมันก็แพง แก๊สก็ปรับขึ้นราคา
เรามาหาวิธีการขับขี่เพื่อช่วยประหยัดเงินในกระเป๋ากัน

วิธีที่ 1 ดับเครื่องยนต์เมื่อรถไม่เคลื่อน
วิธีที่ 2
หลีกเลี่ยงหลุมบ่อ
สภาพพื้นถนนที่เป็นหลุมบ่อ
ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการขับรถให้มีความประหยัด
ถ้าเป็นได้ควรหลีกลี่ยงหลุมต่าง ๆ หรือผิวจราจรที่ไม่ราบเรียบ
เพราะการขับรถผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
ผู้ขับขี่ต้องทำให้เราต้องแตะเบรค
และเร่งอยู่บ่อย ๆ
ทำให้เครื่องยนต์ทำงานไม่สม่ำเสมอ
แต่หากต้องใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นประจำ
อาจจะลองหาเส้นทางเลี่ยงที่ไกลกว่าเดิมไม่มากนักน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
วิธีที่ 3
แรงเฉื่อยช่วยคุณได้
แรงเฉื่อยเกิดขึ้นหลังจากที่เราไม่ได้มีการเร่งให้เครื่องยนต์ทำงานแล้ว
ปล่อยให้รถวิ่งไปต่อไป แรงเฉื่อยมีประโยชน์
เคยเห็นหลาย ๆ คน ทั้ง ๆ ที่ข้างหน้าเป็นแยก หรือไฟแดง
แต่ก็ยังเร่งเครื่องยนต์เพื่อไปเบรคใกล้ ๆ
ซึ่งหากลดคันเร่งลงแล้วปล่อยให้รถไหลไปก็ได้
(ในระยะที่เหมาะสม
ไม่ใช่ปล่อยให้ไหลเป็นกิโลจนทำให้ขวางทางรถด้านหลัง
และก่อให้เกิดการจราจร
ติดขัด)
วิธีการนี้จะช่วยประหยัดทั้งน้ำมันและลดการเบรคที่กระชั้นชิดลง
ได้ประโยชน์ คือ อัตราการสึกหรอของผ้าเบรคก็จะลดลง
และยังช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ทั้งต่อคันที่อยู่ข้างหน้า และ
ข้างหลัง ประโยชน์เห็นๆ
วิธีที่ 4
เหยียบเผื่อเมื่อขึ้นทางชัน
เส้นทางต่างจังหวัด
อาจเจอทางลาดชัน โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นเขา
อันเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำอัตราประหยัด
วิธีการประหยัดน้ำมัน ช้แรงบิดให้เป็นประโยชน์เหยียบส่งลงเขาเพื่อใช้
โมเมนตัมของรถในการเพิ่มความเร็ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องเร่งมากในการขึ้นเขา
(วิธีการนี้ควรใช้วิจารณญาณ และความชำนาญในเส้นทางประกอบ)
วิธีที่ 5
ได้เวลามองพลังงานทางเลือก
ถ้าหากทำทุกอย่างแล้ว
สิ่งสำคัญต่อมาอย่างสุดท้ายคงต้องมองในเรื่องของพลังงานทางเลือก
เช่น การเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิง CNG หรือ LPG
และหากคุณวางแผนที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่อยู่แล้ว
อย่าลืมมองหารถยนต์ที่รองรับเชื้อเพลิงได้หลายประเภทเช่น
เชื้อเพลิง E20,
E85 หรือ รถยนต์ไฮบริด ได้ ก็จะช่วยให้คุณประหยัดยิ่งขึ้น
ทั้งหมดทั้งมวนที่กล่าวมา อาจต้องใช้เวลาในการปรับพฤติกรรมการขับขี่บ้าง
แต่เชื่อแน่ว่าสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้
และที่มากกว่านั้นคุณยังช่วยประหยัดพลังงานช่วยประเทศของเราได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น