น้ำมันเชื้อเพลิงถูกเก็บไว้ในถังน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน
กระแสไฟฟ้า ถูกเก็บไว้ในชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงของรถ ไฮบริด สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า
ผลลัพธ์ที่ได้ จากการผสมผสานระหว่างแหล่งพลังงานทั้งสอง นี้จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษได้ดียิ่งขึ้น
สภาวะเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันจะจ่ายกำลัง (ขับ) ให้เจนเนอร์เรเตอร์ (ตัวปั่นไฟ) เพื่อชาร์จชุดแบตเตอรี่สำหรับเอาไว้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งแตกต่างกับรถยนต์ที่ใช้แต่พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว จึงไม่จำเป็นต้องชาร์จจากแหล่งจ่ายไฟอื่น
รูปแบบของระบบไฮบริด คือ
1. SERIES HYBRID ใช้เครื่องยนต์เป็นตัวปั่นไฟส่งให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนตัวรถ
2. PARALLEL HYBRID ใช้ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันในการขับเคลื่อนตัว
ระบบคู่ขนาน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนหมุนล้อไปพร้อม ๆ กัน (เป็นที่มาของชื่อเรียก คู่ขนาน) โดยที่กำลังขับเคลื่อนจากแหล่งพลังงานทั้ง 2 ชนิดจะถูกนำมาใช้ตามสถานการณ์ต่าง ๆ เท่าที่รถต้องการในเวลานั้น และมอเตอร์จะใช้กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ซึ่งการชาร์จไฟจะมาจากการเปลี่ยน มอเตอร์ไฟฟ้าให้ทำงานเป็นเจเนอเรเตอร์ ในขณะที่รถเบรก
ข้อดีคือ เป็นระบบที่ไม่ซับซ้อน เรียกใช้พลังงานได้เยอะ แต่ข้อด้อยคือ ไม่สามารถส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อได้ขณะที่ทำการชาร์จไฟฟ้าในคราวเดียวกัน เพราะว่าระบบนี้มีมอเตอร์เพียงตัวเดียวในการทำงาน 2 หน้าที่
3. ระบบไฮบริดแบบอนุกรม/คู่ขนาน (Series / Parallel Hybrid)
ระบบนี้รวมเอาข้อดีระบบไฮบริดทั้ง 2 แบบเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งรถไฮบริดของโตโยต้าจะเลือกใช้ระบบนี้รวมถึง รุ่น คัมรี่ ไฮบริด ด้วย โดยระบบดังกล่าวนี้ โตโยต้า เรียกว่า THS
การทำงานของระบบจะขึ้นอยู่กับสภาวะการขับขี่ว่าจะต้องการใช้กำลังจาก มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว (ข้อดีของแบบอนุกรม) หรือจะใช้กำลังขับเคลื่อนจากทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ (ข้อดีของแบบคู่ขนาน) นอกจากนั้น ระบบนี้ยังสามารถส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อต่าง ๆ ได้ แม้ในขณะที่เจเนอเรเตอร์สร้างกระแสไฟฟ้า
กระแสไฟฟ้าที่ใช้ส่งให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์จะมาจากแบตเตอรี่แบบนิเกิล เมทัล ไฮดราย ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ระบบไฮบริดของโตโยต้า หรือ THS (TOYOTA HYBRID SYSTEM) จะเน้นพัฒนาจากรูปแบบ PARALLEL HYBRID
นั่นคือการผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไม่ว่าจะเป็นเบนซินหรือดีเซลในการขับเคลื่อนตัวรถ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งาน
ตัวอย่างเช่น ระบบ THS ที่ใช้ในรถโตโยต้า พรีอุส การออกตัวและการขับเคลื่อนช่วงความเร็วต่ำ จะเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้า เพราะมีจุดเด่นในการให้แรงบิดดีที่รอบต่ำ แต่เมื่อมีการกดคันเร่งหนักขึ้นจนลิ้นปีกผีเสื้อของเครื่องยนต์เบนซินเปิดสุด เครื่องยนต์เบนซินก็จะเข้ามาช่วยเสริมในการขับเคลื่อนกับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเรียกอัตราเร่งเหนือชั้นกว่ารถยนต์ทั่วไป ในระดับเดียวกันถึง 10% เมื่อจอดนิ่งอยู่กับที่ ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและมลพิษ ซึ่งมักมีสูงมากที่รอบการทำงานของเครื่องยนต์ขณะเดินเบา และมอเตอร์ไฟฟ้าจะกลับมาทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการกดคันเร่งเพื่อออกตัว ที่สำคัญในขณะมีการเบรกหรือถอนคันเร่งเพื่อลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าให้เป็นตัวชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ โดยนำแรงเฉื่อยที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของรถยนต์มาใช้ในการปั่นมอเตอร์ไฟฟ้า นับเป็นการนำพลังงานที่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์จากการขับเคลื่อนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผลที่ได้จากระบบไฮบริดของรถยนต์รุ่นพรีอุส คือ อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำถึง 28 กิโลเมตร/ลิตร ตามค่ามาตรฐานการทดสอบที่ Mode 10-15 ของญี่ปุ่น และมีค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 50%
สำหรับข้อดีของระบบไฮบริด อันดับแรกคือ การประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง พร้อมกับลดมลพิษจากการปล่อยไอเสีย ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ รวมถึงการมีอัตราเร่งที่ราบรื่นไม่ติดขัดจากการผสานการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น